“ทรู” ทุ่ม 1.8 พันล้าน คว้าสิทธิยิงสดบอลไทย
วันอังคารที่ 20 สิงหาคม 2556 เวลา 19:14 น.
ตามคาด “ทรูวิชั่นส์” คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดลูกหนังอาชีพของไทย 4 รายการ “ไทยลีก-ดิวิชั่น 1-เอฟเอคัพ-ลีกคัพ” 3 ปีรวด ใช้งบประมาณ 1,800 ล้านบาท “บังยี” ยืนยัน การประมูลยุติธรรมและ โปร่งใสแน่นอน
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท และนายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สาย Commercial ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ร่วมกันแถลงข่าวในพิธีลงนามสัญญาการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2557-2559 โดยมี นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด (ทีพีแอล) ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายวรวีร์ มะกูดี กล่าวแสดงความยินดีกับทาง ทรูวิชั่นส์ ผู้ชนะสิทธิ์การประมูลการถ่ายทอดสด พร้อมยืนยันว่าต้องการการสร้างแบรนด์ลูกหนังไทยลีกไปสู่มาตรฐานสากลและมีเป้าหมายให้โด่งดังไปทั่วทวีปเอเชีย ในส่วนของทรูวิชั่นส์นั้นจะดำเนินการถ่ายทอดสดฟุตบอลอาชีพ 4 รายการ คือ ไทยพรีเมียร์ลีก, ดิวิชั่น 1, เอฟเอคัพ และลีกคัพ โดยทีมในไทยลีก จะได้รับเงินสนับสนุนไม่ต่ำกว่าทีมละ 20 ล้านบาท, ดิวิชั่น 1 ทีมละ 3 ล้านบาท และทีมในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ทีมละ 1 ล้านบาท ตนขอยืนยันว่า สมาคมฯ ได้มอบหมายให้ทาง “สยามสปอร์ต” ดูแลลิขสิทธิ์ต่างๆ และ “สยามสปอร์ต” ได้มอบหมายให้ เซอร์ เดวิด ริชาร์ด อดีตประธานพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นผู้ดำเนินการประมูล ซึ่งถือว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างโปร่งใส ยุติธรรม และมีมาตรฐาน ส่วนกรอบเวลาในการประมูลนั้นได้เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ค.เป็นต้นมา
ทางด้าน นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กล่าวว่า การประมูลครั้งนี้ ตามกำหนดเดิมจะเริ่มกระบวนการเมื่อมีการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ เสร็จสิ้น แต่เมื่อพิจารณาแล้วการเลือกตั้งยังไม่อาจหาข้อยุติได้ และมีท่าทีว่าจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ซึ่งหากการประมูลต้องล่าช้าออกไป จะทำให้เกิดผลกระทบได้ จึงได้ตัดสินใจเริ่มกระบวนการประมูลการถ่ายทอดสด ซึ่งเราได้รับเกียรติจาก เซอร์เดวิด ริชาร์ด เข้ามาเป็นที่ปรึกษา และดำเนินการตามขั้นตอนของสากล จนในที่สุดก็ได้ผู้รับลิขสิทธิ์คือ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ส่วนเงินตอบแทนจากการขายลิขสิทธิ์ให้กับสโมสรต่างๆ นั้น ในเบื้องต้นจะมอบให้เป็น 3 ช่วง คือ ช่วงก่อนเปิดฤดูกาล ในช่วงเดือน ม.ค. ช่วงระหว่างฤดูกาลประมาณ เดือน พ.ค. และช่วงเดือน ก.ย.นั่นเอง
บอสใหญ่สยามสปอร์ต ยืนยันว่า การเปิดประมูลเป็นไปอย่างโปร่งใส เริ่มต้นจากการเชิญบริษัทที่สนใจเข้ามาดูรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งมีประมาณ 3 บริษัท จากนั้นให้ยื่นซองและราคาเข้ามา ก่อนที่สุดท้าย “ทรูวิชันส์” จะชนะการประมูลอย่างเด็ดขาด ตนขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจได้ว่าการประมูลไม่มีอะไรหมกเม็ดแน่นอน ขณะที่ นายองอาจ ประภากมล กล่าวว่า ทรูวิชันส์ ต้องการสนับสนุนและพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ซึ่งเราต้องการให้ผู้ชมทางบ้านได้ดูฟุตบอลดีๆ นอกจากนี้ยังถ่ายทอดสดกีฬาต่างๆ อีกมากมายอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น