วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556


เริ่มต้นเรียกน้ำย่อยด้วย “บาร์บีคิวรวมมิตร” การรวมตัวของสี่สหายโดยไม่ได้นัดหมาย หมูย่าง หมูกรอบ เป็ด ห่าน ชิ้นโตแบบเต็มคำ แกล้มแตงกวากับมะเขือเทศ กินคู่ไวน์ชั้นดีที่พนักงานในชุดจีนรินให้ตั้งแต่ตอนอาหารยังไม่ทันวางบนโต๊ะควรรับประทานแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่าเดินเครื่องเร็วนักในช่วงแรก เพื่อให้รู้รสชาติความอร่อยของอาหารทุกจานได้อย่างครบถ้วน
“ซุปก้างปลา กระเพาะปลาสดเส้น” ถ้วยนี้มาช่วยตัดความเลี่ยน และเพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย เพราะภายในห้องแอร์เริ่มเย็นมากขึ้น
จานต่อไปไม่รอช้า “หมูหันฮ่องกง” ในจานเปล หั่นชิ้นพอคำตั้งแต่หนังกรอบไปจนถึงเนื้อ(น้อง)หมู จิ้มซี่อิ๊วดำหวาน รับประทานคู่กับแป้งแบบหมั่นโถวชิ้นเล็ก เสิร์ฟมาในเข่ง แทนที่จะเป็นแผ่นแป้งโรตีบาง ๆ มันย่องอย่างหลายร้าน
“ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว” จานนี้ทำให้ชีวิตกลับมามีรสชาติใหม่ ด้วยความเค็มกำลังดี และปลาสดใหม่ตัวใหญ่ รอให้คนรักสุขภาพทั้งหลายได้คีบอย่างเอร็ดอร่อย ปิดท้ายอาหารคาว “เกี้ยมอี๋ผัดรวมมิตร” แปลกไปอีกแบบ เพราะที่เคยเห็นเกี้ยมอี๋ตามร้าน ส่วนใหญ่นำไปใช้แทนเส้น ปรุงเครื่องแบบก๋วยเตี๋ยวน้ำ ส่วนเกี้ยมอี๋ผัดรวมมิตร คล้ายผัดมะกะโรนี ใส่แครอท หัวหอมใหญ่ โรยไข่ทอดที่ซอยเป็นเส้น จืดแต่เข้ารสกันที
เชฟเลือกขนมหวาน 2 ชนิด เสิร์ฟขึ้นโต๊ะ เรียกว่า “ขนมบัวลอยเผือก” และ “ขนมฟักทองบดเห็ดหูหนูขาว” บัวลอยเผือกไม่ได้มาเป็นถ้วยแบบราดน้ำกะทิ แต่มาแบบแห้ง ปั้นแป้งนิ่มเป็นลูกกลม อร่อยจนเกือบลืมเคี้ยว คล้ายขนมฟักทองบดเห็ดหูหนูขาว ตัดเป็นสี่เหลี่ยมคำเล็ก ๆ สีเหลือทอง หวานกำลังดี กว่าจะเสิร์ฟครบทุกเมนูก็อิ่มลงพุงทันตาเห็น!

10 อันดับ.... อาหารยอดนิยมของคนไทย


ลงความเห็นว่า อาหาร 10 อย่างต่อไปนี้ เป็นอาหารยอดนิยมของคนไทย  มีอะไรบ้าง...มาดูกันค่ะ

อันดับ 10 ผัดไทย 


 ร้านอาหารตามสั่งหลายๆ ร้าน คุณแม่ครัวเธอก็มีวิชาทำอาหารเป็นเลิศ สั่งมาเถอะค่ะ...เจ๊ทำได้หมด อยากกินผัดไทยเจ๊ก็ทำได้ (แต่จะกินได้เปล่าก็อีกเรื่องหนึ่ง) หนุ่มสาวชาวเมืองหลายๆคนก็จึงนิยมสั่งผัดไทยมากิน  แม้จะรู้ว่ารสชาติอาจจะสู้ไปกินตามร้านที่ขายผัดไทยโดยเฉพาะไม่ได้ก็ตาม
แต่พวกเขาก็ให้เหตุผลว่า อยากลองสั่งมากินดูบ้างเพราะเบื่อเมนูอาหารแบบเดิมๆ
ที่ต้องกินทุกวัน 


อันดับ 9 ราดหน้า-ผัดซีอิ๊ว 


ก็บอกแล้วว่าร้านอาหารตามสั่งน่ะ เจ๊ทำได้หมด ฉะนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจที่เจ๊แกก็สามารถทำก๋วยเตี๋ยวราดหน้าหรือผัดซีอิ๊วให้กินได้ เมนูนี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่เบื่อข้าวแล้วอยากเปลี่ยนรสชาติมากินก๋วยเตี๋ยวบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยจะนิยมสั่งกันนัก เพราะถึงแม้ว่าเจ๊แกจะทำได้ แต่เรื่องของความอร่อยก็คงต้องบอกเจ๊แกว่า "พอแหลกล่าย" 

อันดับ 8 สุกี้


อีกหนึ่งเมนูอาหารของคนเบื่อข้าว การสั่งสุกี้มากินก็ไม่เลวเหมือนกัน แต่ช้าก่อน “สุกี้” ในที่นี้ กรุณาอย่าวาดภาพเลิศหรูอลังการประหนึ่ง ”สุกี้เอ็มเค” แต่มันเป็นเพียงสุกี้ที่เอาวุ้นเส้นมาต้มในน้ำซุป แล้วใส่ใข่  ใส่ผัก ใส่เนื้อ ใส่หมู กุ้ง หอย ปู ปลา อะไรก็ว่าไป รสชาติก็พอทานได้ แต่จะอร่อยมากอร่อยน้อยตรงนี้อยู่ที่น้ำจิ้ม สุกี้ต้องแซ่บ ราดโครมลง ไปในชามสุกี้เลย ถ้าถ้วยเดียวไม่แซ่บพอก็ขอเพิ่มแต่บางคนอาจจะชอบแบบสุกี้แห้งก็มีเหมือนกัน อันนี้ก็แล้วแต่สะดวกล่ะนะ

อันดับ 7 ผัดพริกสดราดข้าว


เมนูนี้บางร้านก็ใช้พริกชี้ฟ้าเม็ดใหญ่มาซอย บางร้านก็เป็นพริกหยวก แต่ไม่ว่าจะยังไงทั้งสองอย่างต้องเป็นพริกสดๆ ไม่ใช่พริกแห้ง ไม่งั้นผิดคอนเซปต์ จากนั้นก็เอาพริกสดมาผัดรวมกับหอมใหญ่ซอย และต้นหอม ใส่เนื้อ หมู ไก่ หรือกุ้ง ตามใจชอบ เป็นอีกเมนูที่หลายๆ คนชอบสั่ง 

อันดับ 6 ผัดพริกแกงราดข้าว


เมนูสิ้นคิดอีกอันที่เป็นที่นิยมอย่างสูง ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่ชอบกินอะไรเผ็ดๆ
เป็นประจำอยู่แล้ว กินไปซู้ดปากไป แต่ก็มีหลายๆ คนที่ไม่ชอบกินเผ็ดมากนักจึงเลี่ยงที่จะสั่งมารับประทานเมนูนี้จึงได้รับความนิยมอยู่ในอันดับกลางๆ 


อันดับ 5 ผัดผักราดข้าว


เมนูนี้มีตั้งแต่คะน้าหมูกรอบ กระเฉดหมูกรอบ ผักบุ้งหมูกรอบบางคนไม่กินหมูก็อาจจะเปลี่ยนเป็นไก่ได้ ผัดผักราดข้าวเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในระดับต้นๆ     เช่นกัน ค่าที่ว่ากินง่าย ถูกปากได้สารอาหารครบถ้วนทั้งเนื้อ ทั้งผัก ทั้งข้าว 

อันดับ 4 ข้าวหมูทอดกระเทียมพริกไทย


อันนี้เป็นเมนูสิ้นคิดที่สาวๆ มักชอบสั่ง
คิดว่าคงเป็นเพราะความอร่อยของเนื้อหมูที่เอามาทอดในซอสน้ำมันหอยคลุกกับพริกไทย
เสร็จแล้วเอามาโปะกับข้าวสวยร้อนๆ กินกับแตงกวา
ถ้าอยากเพิ่มความพิเศษให้กับเมนูอาจจะสั่งไข่ดาวมาเพิ่มได้
ถ้ากินกลางวันก็อิ่มไปถึงเย็นเลย 


อันดับ 3 ข้าวไข่เจียว


สิ้นคิดเข้าไปเรื่อยๆ กับเมนูนี้ นึกอะไรไม่ออกก็เอาล่ะ ข้าวไข่เจียวก็ได้ง่ายสุด ความเสี่ยงต่ำและประกันความไม่อร่อยเพราะถ้าร้านอาหารตามสั่งร้านไหนทำไข่เจียวไม่อร่อยก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว อย่างอื่นก็อย่าไปกินมันเลย เป็นเมนูเพลย์เซฟอย่างดีสำหรับคนเมืองแต่ก็สิ้นคิดจริงๆ 

อันดับ 2 ข้าวผัด


ใครสั่งข้าวไข่เจียวว่าสิ้นคิดแล้วแต่คนสั่งข้าวผัดกับสิ้นคิดกว่า  เพราะมันเป็นอาหารสุดยอดแห่งความไม่ครีเอทเอาเสียเลย เอาข้าวมาผัดแล้วใส่ใข่ใส่เนื้อสัตว์อะไรก็ว่าไปใส่ผักเขียวๆ ลงไปหน่อยผัดไปผัดมาสองสามทีก็เสร็จแล้ว แต่บางคนอาจจะชอบข้าวผัดเป็นชีวิตจิตใจถ้าไปเจอร้านที่ผัดข้าวผัดได้อร่อยเหาะจริงๆ
ข้าวผัดที่อร่อยต้องเป็นข้าวที่ผัดออกมาแล้วไม่แฉะ เม็ดข้าวขาวนวล ผัดร้อนๆ
ยกเสิร์ฟบีบมะนาวใส่ แล้วราดด้วยพริกน้ำปลา...จบ 


อันดับ 1 ข้าวกระเพราไก่+ไข่ดาว


งานนี้ได้อันดับหนึ่งมาอย่างเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นสมกับเป็นเมนูอาหารสิ้นคิดจริงๆแล้วทำไมต้องเป็นกระเพราไก่ไข่ดาว???อันนี้คาดว่าเป็นอาหารที่ถูกปากคนไทยที่สุด ด้วยที่ว่ารสชาติออกแนว Hot & Spicy ถือเป็นเมนูพื้นฐานที่ทุกร้านอาหารตามสั่งต้องมีและแม่ครัวจะฝีมือชั่วแค่ไหนก็ต้องทำได้อร่อย
ส่วนใหญ่จะนิยมสั่งกระเพราไก่และบ่อยครั้งที่คนสั่งมักจะ ควบไข่ดาวเป็น
”กระเพราไก่ไข่ดาว” นัยว่าเป็นคำคล้องจองกันดี เช่น ”ป้าๆ กระเพราไก่ไข่ดาว
จานนึง” อะไรประมาณนี้


วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เที่ยวเชียงใหม่


เที่ยวเชียงใหม่ใน 1 วันเที่ยวเชียงใหม่ใน 1 วัน

เที่ยวเชียงใหม่ใน 1 วัน (ต่อ 1 โปรแกรม)

โปรแกรมที่ 1 ดอยอินทนนท์
- เดินทางไปยังดอยอินทนนท์ ชมทัศนียภาพของยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศ
- กิ่วแม่ปาน                                                                                      
- นมัสการพระมหาธาตุนภเมทนีดล 
- โครงการหลวง
- สวนสตรอเบอร์รี่
- เที่ยวชมตลาดม้ง ที่มีทั้งผัก, ผลไม้สดๆ และของฝากจากชาวเขา
- น้ำตกวชิรธาร น้ำตกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 760 ม.
- วัดพระธาตุศรีจอมทอง (พระประจำปีเกิดของปีชวด)

โปรแกรมที่ 2 ดอยสุเทพ
- นมัสการครูบาศรีวิชัย
- นมัสการพระธาตุดอยสุเทพ 
- ชมพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์
- หมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง ชมวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าม้ง 
- เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่

โปรแกรมที่ 3 ม่อนแจ่ม
- ไปดูทุ่งดอกบัวตองแห่งเดียวของเชียงใหม่ที่ ม่อนวิวงาม
- ม่อนแจ่ม ดูไร่องุ่นที่สวนเอเดน
- ปางช้างแม่สา
- สวนสตรอเบอร์รี่
- โรงเรียนฝึกลิง
- ฟาร์มจระเข้
- กะเหรี่ยงคอยาว
- น้ำตกแม่สา

โปรแกรมที่ 4 ไหว้พระ 9 วัด
- ไหว้พระ 9 วัด (วัดเจดีย์หลวง, วัดพระสิงห์, วัดดวงดี, วัดเชียงมั่น, วัดดับภัย, วัดศรีสุพรรณ, วัดลอยเคราะห์, วัดชัยมงคล, วัดหมื่นเงินก๋อง)

โปรแกรมที่ 5 ล่องแพ
- ขี่ช้าง
- นั่งเกวียน
- ล่องแพไม้ไผ่
- ล่องแก่งเรือยาง (แก่งกึ๊ด)

โปรแกรมที่ 6 ปาย
-วัดน้ำฮู
-สะพานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น
-ห้วยน้ำดัง
-อุทยานโป่งเดือด
-สวนสตอเบอรรี่
-มณฑลยูนนาน
-coffee love
 
โปรแกรมที่ 7 แม่ฮ่องสอน
-วัดพระธาตุดอยกองมู
-วัดจองคำ-จองกลาง
-น้ำตกผาเสื่อ
-ภูโคลนคันทรี่คลับ
-ถ้ำปลา
-บ้านกระเหรี่ยงคอยาว
-ทุ่งดอกบัวตองแม่ฮู่คอ
-ถ้ำน้ำลอด
-น้ำพุร้อนแม่ฮี้
-พระตำหนักเอื้องเงิน

โปรแกรมที่ 8
- บ้านถวาย
- เวียงกุมกาม
- น้ำพุร้อนสันกำแพง
- ร่มบ่อสร้าง
- เจมส์จิวเวอรี่
- เอสเค เครื่องหนัง
 
ราคาเช่าเหมาวันพร้อมน้ำมัน

. สะพานประวัติศาสตร์ปาย
        เป็นสะพานเหล็กที่สร้างในปี พ.ศ.มีลักษณะคล้านกับสะพานแม่น้ำแคว ในอดีตเคยเป็นเส้นทางที่กองทัพญี่ปุ่นใช้เป็นเส้นทางเดินทัพจากเชียงใหม่ ผ่านปาย เพื่อข้ามไปประเทศพม่าในสงครามโลกครั้งที่ 2

4.บ้านน้ำเพียงดิน
        เป็นสถานที่สำหรับให้นักท่องเที่ยวล่องเรือ จากบ้านห้วยเดื่อ-บ้านน้ำเพียงดิน โดยเรือหางยาว ราคาเหมาลำ ลำละ 500-700 บาท  นั่งได้ 8 คน ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 40 นาที นอกจากนี้ยังสามารถแวะชมและสัมผัววิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงคอยาวปาด่อง ที่บ้านห้วยปูแกง ซึ่งตั้งอยู่ก่อนถึงบ้านน้ำเพียงดินริมฝั่งแม่น้ำปาย  สามารถพักที่โฮมสเตย์บ้านห้วยปูแกงได้ด้วย 


1. วัดพระธาตุกองมู
        เดิมมี ชื่อว่าวัดปลายดอย อยู่บนดอยกองมู เป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญที่สุด ประกอบด้วยเจดีย์ 2 องค์  จากวัดดอยกองมูมองเห็นภูมิประเทศของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้อย่างชัดเจน วัดนี้มีงานประจำปี คืองานวันออกพรรษา จะมีการตักบาตรเทโวโรหนะ และวันลอยกระทงจะมีการปล่อยกระทงสวรรค์หรือกระทงลอยผ้าอย่างสวยงามแปลกตายิ่งนัก

วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เก้า จิรายุ

       “เก้า จิรายุ” ควง “มายด์ วิรพร” ออกงาน บอกไม่ได้พามาเปิดตัวแค่มาช่วยกันทำการกุศล เผยตอนนี้ยังไม่ได้เป็นแฟนกันแต่ยอมรับกำลังศึกษากันอยู่ ฝ่ายชายชมมายด์เป็นคนดีน่ารัก
      
       ก่อนหน้านี้เพิ่งยอมรับว่ามีสาวคนสนิทแล้วแต่ยังไม่อยากเปิดตัว สำหรับ “เก้า จิรายุ ละอองมณี” ล่าสุด เก้าก็ควงคุณแม่ “ก้อย วรนุช” ออกงานเปิดตัว “โรงพยาบาลสัตว์ ทองหล่อ” สาขาพระราม 2 แถมยังควง “มายด์ วิรพร จิรเวชสุนทรกุล” นักแสดงน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์มาร่วมงานด้วย ทำให้หลายคนสงสัยว่าควงกันมาเปิดตัวว่าเป็นแฟนหรือเปล่า งานนี้ทั้งคู่ก็รีบแจงว่าไม่ได้ควงกันเปิดตัว ด้านฝ่ายหญิงบอกอาสามาช่วยขายเสื้อเพื่อนำเงินไปช่วยน้องหมา
      
       เก้า : “ไม่ทราบเหมือนกันครับ ไม่ทราบว่าเพราะอะไร แต่ไม่ได้เปิดตัวครับ”
      
       มายด์ : “หนูเป็นคนอาสาเองค่ะ เหมือนหนูเอาเสื้อที่พี่เก้าออกแบบไปช่วยขายแล้วก็เอาเงินมาช่วยน้องหมาคือหนูอยากมีส่วนร่วมด้วยจริงๆ ค่ะ”
      
       เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้งคู่เป็นแฟนกันหรือยัง หนุ่มเก้าก็รีบแจงว่า เป็นแค่เพื่อนกัน แต่ตอนนี้อยู่ในช่วงศึกษาดูใจกัน
      
       “กับมายด์รู้จักกันประมาณปีที่แล้ว ก็มีโอกาสได้ร่วมงานกันที่ต่างจังหวัด อย่างที่บอกตอนนี้เราก็ศึกษากันไปเรื่อยๆ คือไม่ได้จะมาเปิดตัวหรืออะไร แบบของผมคือโผล่มาปุ๊บแต่งเลยรอผมอายุสัก 40 (หัวเราะ) ถ้าถามว่าเป็นแฟนกันหรือยัง ตอนนี้ยังครับ คือเราก็ศึกษากันด้วยการคุยกัน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผมไม่ได้ซีเรียสเท่าไหร่ เป็นเพื่อนกันครับ อย่างวันนี้ที่มาแต่ละคนก็เป็นเพื่อนที่ผมสนิท อย่างมายด์เคยถ่ายหนังด้วยกันก็มาช่วยที่ทุกคนมาวันนี้ก็อยากมาทำบุญ”
      
       “เก้า” เผย “มายด์” เป็นคนดี น่ารัก ด้านมายด์กล่าวว่า ตนไม่มีสเปคตายตัว และความสัมพันธ์แบบเพื่อนยาวนานกว่า
      
       เก้า : “มายด์เขาก็เป็นคนดี จริงๆ ก็เป็นคนน่ารัก อย่างเวลามีงานเขาว่างก็สามารถมาช่วยได้แบบวันนี้เขาก็รีบมาช่วย”
       มายด์ : “มายด์ไม่มีสเปกตายตัว เพราะว่าถ้าดูกันแล้วโอเคก็คือโอเค (แล้วตอนนี้โอเคไหม) ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน เพราะถ้าเป็นเพื่อนกันก็ช่วยเหลือกันได้เยอะกว่ามีอะไรก็ช่วยเหลือกัน คือยืนยาวกว่าความสัมพันธ์แบบอื่น”

ปัน ปัน สุทัตตา

  อัพเดตความคืบหน้า 'ปัน ปัน สุทัตตา'ลือหึ่งดอดบินเรียนต่อต่างประเทศ?
 
ปัน ปัน สุทัตตา
ปัน ปัน สุทัตตา
อัพเดตความคืบหน้า 'ปัน ปัน สุทัตตา' - GTH บอกติดต่อไม่ได้อีกเลย-ด้านพีช พชร ปัดไม่รู้ 'ปัน ปัน' ดอดบินเรียนต่อต่างประเทศ


หลังข่าวคราวทอร์ค ออฟ เดอะทาวน์ ของ นางเอกสาว 'ปัน ปัน สุทัตตา อุดมสิน' ค่อยซาลง ตอนนี้ ก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะหายเงียบไปเลยเช่นกัน -- ซึ่งอัพเดตล่าสุด มีข่าวลือหนาหู ว่า ตอนนี้ 'ปัน ปัน' เดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแล้ว ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว 'สิน ยงยุทธ ทองกองทุน' ผู้บริหารของ GTH ก็เปิดเผยกับสื่อในงานหนึ่ง ว่า ตอนนี้ ตนและ GTH เอง ก็ติดต่อ 'ปันปัน' และ ครอบครัวไม่ได้เช่นกัน 

'เรื่องน้อง ปัน ปัน ตอนนี้ ก็ติดต่อไม่ได้ ไม่ทราบเหมือนกันว่าน้องไปไหน เรื่องบทในฮอร์โมน ภาค 2 ก็ คงเป็นไปอย่างที่พ่อและน้องออกมาแถลงก็ไม่มีการติดต่อมาเลยครับ ก็เป็นไปตามที่เราตกลงกัน ว่าพ่อเขาจะขอดูแลน้องและขอถอนน้องออกไป ซึ่งเราก็ตกลงร่วมกัน แล้วหลังจากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของครอบครัวน้องปันปัน แล้วทางบริษัทก็ไม่ติดต่อกลับไปอีก แล้วทางคุณพ่อก็ไม่ได้ติดต่อเข้ามา'

ในขณะที่ 'พีช พชร จิราธิวัตร' เผย ยังไม่ได้พูดคุยกับ'นางเอกสาวร่วมซีรี่ส์' แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้ ปัดไม่รู้ว่าหลบข่าวบินไปเรียนต่อต่างประเทศ
 
“กับน้องปันปันยังไม่ได้คุยเลยครับ ผมรู้สึกว่ายังไม่ใช่เวลาที่ต้องคุยกัน แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้อยู่แล้ว ปกติก็เคยบอกไปแล้ว คือผมก็ไม่ได้ติดตามเลยครับ แล้วก็ไม่ได้อยากจะรู้เรื่องนั้นเลยด้วย แต่ก็เป็นกำลังใจให้ครับ เดี๋ยวทุกอย่างมันก็ดีขึ้นเอง ส่วนที่มีกระแสว่าน้องไปต่างประเทศ อันนี้ผมไม่ทราบเลยครับ ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าน้องไปต่างประเทศ”
ปัน ปัน สุทัตตา
ปัน ปัน สุทัตตา


“ทรู” ทุ่ม 1.8 พันล้าน คว้าสิทธิยิงสดบอลไทย

วันอังคารที่ 20 สิงหาคม 2556 เวลา 19:14 น.
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท และนายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สาย Commercial ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ร่วมกันแถลงข่าวในพิธีลงนามสัญญาการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2557-2559 โดยมี นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด (ทีพีแอล) ร่วมเป็นสักขีพยาน
               
นายวรวีร์ มะกูดี กล่าวแสดงความยินดีกับทาง ทรูวิชั่นส์ ผู้ชนะสิทธิ์การประมูลการถ่ายทอดสด พร้อมยืนยันว่าต้องการการสร้างแบรนด์ลูกหนังไทยลีกไปสู่มาตรฐานสากลและมีเป้าหมายให้โด่งดังไปทั่วทวีปเอเชีย ในส่วนของทรูวิชั่นส์นั้นจะดำเนินการถ่ายทอดสดฟุตบอลอาชีพ รายการ คือ ไทยพรีเมียร์ลีกดิวิชั่น 1, เอฟเอคัพ และลีกคัพ โดยทีมในไทยลีก จะได้รับเงินสนับสนุนไม่ต่ำกว่าทีมละ 20 ล้านบาทดิวิชั่น ทีมละ ล้านบาท และทีมในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น ทีมละ ล้านบาท ตนขอยืนยันว่า สมาคมฯ ได้มอบหมายให้ทาง สยามสปอร์ต ดูแลลิขสิทธิ์ต่างๆ และ สยามสปอร์ต” ได้มอบหมายให้ เซอร์ เดวิด ริชาร์ด อดีตประธานพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นผู้ดำเนินการประมูล ซึ่งถือว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างโปร่งใส ยุติธรรม และมีมาตรฐาน ส่วนกรอบเวลาในการประมูลนั้นได้เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ค.เป็นต้นมา
               
ทางด้าน นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กล่าวว่า การประมูลครั้งนี้ ตามกำหนดเดิมจะเริ่มกระบวนการเมื่อมีการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ เสร็จสิ้น แต่เมื่อพิจารณาแล้วการเลือกตั้งยังไม่อาจหาข้อยุติได้ และมีท่าทีว่าจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ซึ่งหากการประมูลต้องล่าช้าออกไป จะทำให้เกิดผลกระทบได้ จึงได้ตัดสินใจเริ่มกระบวนการประมูลการถ่ายทอดสด ซึ่งเราได้รับเกียรติจาก เซอร์เดวิด ริชาร์ด เข้ามาเป็นที่ปรึกษา และดำเนินการตามขั้นตอนของสากล จนในที่สุดก็ได้ผู้รับลิขสิทธิ์คือ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ส่วนเงินตอบแทนจากการขายลิขสิทธิ์ให้กับสโมสรต่างๆ นั้น ในเบื้องต้นจะมอบให้เป็น 3 ช่วง คือ ช่วงก่อนเปิดฤดูกาล ในช่วงเดือน ม.ค. ช่วงระหว่างฤดูกาลประมาณ เดือน พ.ค. และช่วงเดือน ก.ย.นั่นเอง
               
บอสใหญ่สยามสปอร์ต ยืนยันว่า การเปิดประมูลเป็นไปอย่างโปร่งใส เริ่มต้นจากการเชิญบริษัทที่สนใจเข้ามาดูรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งมีประมาณ 3 บริษัท จากนั้นให้ยื่นซองและราคาเข้ามา ก่อนที่สุดท้าย ทรูวิชันส์ จะชนะการประมูลอย่างเด็ดขาด ตนขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจได้ว่าการประมูลไม่มีอะไรหมกเม็ดแน่นอน ขณะที่ นายองอาจ ประภากมล กล่าวว่า ทรูวิชันส์ ต้องการสนับสนุนและพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ซึ่งเราต้องการให้ผู้ชมทางบ้านได้ดูฟุตบอลดีๆ นอกจากนี้ยังถ่ายทอดสดกีฬาต่างๆ อีกมากมายอีกด้วย


ในหลวงและพระราชีนี เสด็จหัวหิน 1 ส.ค.

วันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2556 เวลา 14:52 น.
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายวีระ  ศรีวัฒนตระกูล  ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสำนักพระราชวังว่า  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ   จะเสด็จออกจากโรงพยาบาลศิริราช  ในเวลาประมาณ 16.00 น.วันที่ 1 สิงหาคมนี้  เพื่อเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับ  ณ พระราชวังไกลกังวล  อำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
นายวีระ  กล่าวว่า  สำหรับการเตรียมความพร้อมของจังหวัดขณะนี้ได้สั่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ ประดับธงชาติ  ธงตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ทั้ง 2 พระองค์  บริเวณเกาะกลางถนนเพชรเกษม ตั้งแต่ท่าอากาศยานหัวหิน ถึงบริเวณหน้าพระราชวังไกลกังวล  และขอให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ อำนายความสะดวกให้กับประชาชนที่คาดว่าจะเดินทางมาเฝ้ารับเสด็จที่อำเภอหัวหินจำนวนหลายหมื่นคนเพื่อชื่นชมพระบารมีและถวายความจงรักภักดี
พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้เรียกประชุมตำรวจภูธรจังหวัดเพื่อเตรียมการด้านการถวายความปลอดภัย และการจัดการจราจรในเส้นทางขบวนเสด็จฯ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 500 นาย   สำหรับในส่วนของการจัดการจราจรนั้นได้มีการวางแผนเรื่องจุดจอดรถของประชาชนที่รอเฝ้ารับเสด็จฯแล้วอย่างน้อย 11 จุด
นพ.พิภพ เจนสุทธิเวชกุล สาธารณสุขจังหวัด ( สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์  เปิดเผยว่า กล่าวว่า  ได้เตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขโดยระดมทีมแพทย์ พยาบาลจากโรงพยาบาลหัวหิน โรงพยาบาลปราณบุรี โรงพยาบาลสามร้อยยอด โรงพยาบาลกุยบุรี และโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์  เพื่อจัดทีมปฐมพยาบาลให้เพียงพอกับการดูแลประชาชนจำนวนมากที่จะเดินทางมาเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  ที่จะเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับ  ณ พระราชวังไกลกังวล
ทางด้าน ศ.คลีนิค นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่า โดยรวมแล้วพระอาการดีขึ้นมาก ทรงมีพระราชประสงค์แปรพระราชฐาน ไปประทับที่วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อทรงเปลี่ยนพระอิริยาบถให้ทรงมีพระวรกายที่แข็งแรงยิ่งขึ้น อีกทั้งให้ทรงพระสำราญ ส่วนพระอาการของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นั้น โดยรวมแล้วพระอาการดีขึ้น ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง สามารถพระดำเนินได้ดี แต่เพื่อความไม่ประมาททางรพ.ศิริราช ได้จัดทีมแพทย์ และพยาบาลที่ถวายการรักษาทั้งหมด ติดตามไปถวายการดูแล พร้อมกับเตรียมอุปกรณ์ทางการแพทย์ไว้ที่วังไกลกังวล และที่รพ.หัวหินไว้พร้อมแล้ว
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ รพ.ศิริราช เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2552 โดยสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2552 ความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระปรอท (เป็นไข้) และมีพระอาการอ่อนเพลีย ตลอดจนเสวยพระกระยาหารได้น้อยลง คณะแพทย์จึงได้กราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ  รพ.ศิริราช เพื่อตรวจหาสาเหตุ พร้อมกับถวายการรักษาด้วยน้ำเกลือทางหลอดพระโลหิต ร่วมกับยาปฏิชีวนะ
ในวันนั้น เหล่าพสกนิกรชาวไทยต่างห่วงใยในพระอาการประชวรจึงพร้อมใจกันเดินทางมาติดตามพระอาการประชวรที่รพ.ศิริราชอย่างเนืองแน่น ทั้งจากกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงต่างประเทศ เพื่อถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์
ตลอดระยะเวลาที่ประทับ ณ  รพ.ศิริราช มิได้ทรงว่างเว้นจากการทรงงาน ยังทรงติดตามการดำเนินงานของโครงการพระราชดำริต่างๆ อาทิ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เข้าเฝ้าฯ ถวายรายงาน พร้อมมีรับสั่งว่า "อยู่โรงพยาบาลมา 3 ปีไม่ได้ไปไหน แต่ถ้าได้ไปไหนบ้างก็จะช่วยได้บ้าง ถ้าออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่ก็คงจะช่วยได้มากกว่านี้"
นอกจากนี้ เมื่อมีพระวรกายแข็งแรง พระองค์จะทรงเปลี่ยนพระอิริยาบทในสถานที่ต่างๆ อาทิ  รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ สถานตากอากาศบางปู เป็นต้น โดยทรงมีสีพระพักตร์แจ่มใส ทรงแย้มพระสรวล โบกพระหัตถ์ทักทายประชาชน สร้างความปลื้มปิติให้กับประชาชนที่เฝ้าฯ รับเสด็จเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ รพ.ศิริราชเพื่อถวายการดูแลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ชิดด้วย
จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2555 สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ว่า เมื่อเช้ามืดของวันที่ 21 ก.ค. 2555 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระดำเนินออกพระกำลัง ทรงรู้สึกเวียนพระเศียร และทรงเซเล็กน้อย แต่ทรงรู้สึกพระองค์ดี รับสั่งได้ คณะแพทย์จึงถวายการตรวจพระวรกาย ตรวจพระสมองด้วยคลื่นแม่เหล็ก พบว่ามีการขาดเลือดเล็กน้อยที่พระสมองส่วนหลังด้านขวา ไม่พบพระโลหิตออกในพระสมอง คณะแพทย์จึงขอพระราชทานพระราชานุญาตถวายพระโอสถทางหลอดพระโลหิต และติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งขอให้งดพระราชกิจชั่วระยะเวลาหนึ่ง
พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าต่างเป็นกังวลและห่วงใยในพระสุขภาพของทั้งสองพระองค์จึงพร้อมใจกันมาถวายพระพร ต่างนำแจกันดอกไม้ ผลไม้ พระพุทธรูป รวมทั้งของดีประจำท้องถิ่น และประจำจังหวัดจากทั่วประเทศ มาทูลเกล้าฯ ถวายทั้งสองพระองค์ไม่ขาดสายและต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน รวมทั้งในทุกวันอาทิตย์ เหล่าพุทธศาสนิกชนต่างพร้อมใจกันมาสวดมนต์ถวายพระพรให้ทั้งสองพระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์อยู่เป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทยไปตราบนานเท่านาน
จนกระทั่งถึงวันที่เสด็จออกจากรพ.ศิริราชกลับไปประทับ ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมระยะเวลาประทับ ณ รพ.ศิริราช ของทั้งสองพระองค์ ประมาณ 3 ปี 10 เดือน โดยมีแถลงการณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ รพ.ศิริราช รวมทั้งหมด 65 ฉบับ และแถลงการณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระประชวรขณะประทับ ณ รพ.ศิริราช รวมทั้งหมด 14 ฉบับ
ส่วนที่จังหวัดสตูล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2556  ที่ห้องประชุมโรงเรียนทุ่งหว้าวรวิทย์  หมู่ 4 (บ้านขุมทรัพย์) ต.ป่าแก่บ่อหิน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล  พลเอกหม่อมหลวงทศนวอมร  เทวกุล  รองสมุหราชองครักษ์  พร้อมด้วยคณะฯ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมความพร้อมสถานที่การเตรียมรับเสด็จโดยมีนายอุทาร  พิชญาภรณ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย นายสำราญ วิจิตรพันธ์  ประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล และหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ  ทั้งนี้  รองสมุหราชองครักษ์  กล่าวว่า วันที่ 29 ส.ค.2556 นี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ วลัยลักษณ์  อัครราชกุมารี จะเสด็จเยี่ยมชุด พอ.สว. คณะกรรมการ และสมาชิก พอ.สว.จังหวัดสตูล ณ โรงเรียนทุ่งหว้าวรวิทย์ หมู่ 4 (บ้านขุมทรัพย์) ต.ป่าแก่บ่อหิน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล และจากการลงพื้นที่มาตรวจสถานที่แล้ว พบว่า มีความพร้อม การจัดกิจกรรมก็คงจะเป็นไปด้วยดี โดยสิ่งที่ย้ำให้ทางจังหวัดสตูลดำเนินการคือทุกอย่างต้องสมพระเกียรติ ไม่มากไม่น้อย ไม่รบกวนผู้ใดให้เดือดร้อน ในเบื้องต้นให้จังหวัดสตูล ได้ออกคำสั่งมอบหมายผู้เกี่ยวข้อง  และหน่วยงานต่างๆ รับผิดชอบตามสัดส่วน การเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้ ถือว่าเป็นมงคลยิ่งสำหรับจังหวัดสตูล.