วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

หอเอนปีซา

 

 หอเอนเมืองปีซา  (The Leaning Tower of Pisa)

     หอเอนเมืองปีซา   ตั้งอยู่ที่เมืองปีซา   ประเทศอิตาลี   เป็นหอทรงกระบอก  8  ชั้น   สร้างด้วยหินอ่อนสูง  181  ฟุต   เริ่มสร้างเมื่อค.ศ.  1174   แต่การก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงเมื่อก่อสร้างไปได้ประมาณ 4-5  ชั้น   เนื่องจากพื้นดินใต้อาคารเริ่มยุบลงจากการที่รากฐานของอาคารไม่มั่นคงพอ   อย่างไรก็ตามต่อมาได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยเมื่อปีค.ศ. 1350   ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงบางส่วนของโครงสร้างด้านบนไปจากแผนผังเดิมเพื่อถ่วงดุลกับการเอียงของหอ โดยรวมระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น  176  ปี   แต่ตัวหอก็ยังเอนไปจากแนวตั้งฉากถึง  14  ฟุตปัจจุบันนี้ได้ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมข้างบนแล้ว   เนื่องจากว่าหอจะเอนลงเรื่อยๆ   ซึ่งบรรดาวิศวกรกำลังหาทางที่จะหยุดยั้งการเอนและอนุรักษ์ให้มีสภาพเอียงไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ชมไปอีกนานๆ   สำหรับหอเอนปิซานี้ภายในมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายด้วยฝีมือจิตรกรชื่อดังแห่งยุคได้สลักลวดลายไว้สวยงามมาก   ณ  ที่หอเอนปิซาแห่งนี้เป็นที่ที่กาลิเลโอขึ้นไปทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับแรงดึงดูดของโลก

ตึกใบหยก

ตึกใบหยกสกาย
ตึกใบหยกสกาย
ตึกใบหยกสกาย กรุงเทพมหานคร เป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่บริเวณประตูน้ำ วันนี้ ทาง thaitravels.net นำข้อมูล พร้อมภาพ มาให้ดูและศึกษา กันค่ะ










ตึกใบหยกสกาย
ตึกใบหยกสกาย
ตึกใบหยกสกาย เป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่บริเวณ ประตูน้ำ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการพานิชย์และการค้าการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่สำคัญของกรุงเทพฯ มีส่วนที่เป็นร้านค้า โรงแรม ห้องอาหาร

ตึกใบหยกสกาย
ตึกใบหยกสกาย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน / เวลาเปิดทำการ: 10.00 – 18.00
- See more at: http://www.thaitravels.net/1007#sthash.x8TETHSt.dpuf

10 สุดยอดสัตว์แปลกแห่งปี 2010

     ถึงแม้ว่ามนุษย์จะค้นพบสิ่งมีชีวิตใหม่ๆมากมายแต่นับว่ายังมีสิ่งมีชีวิต      อีก  มากที่เรายังไม่พบ  เรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติและในช่วงปีที่ผ่านมาก็เช่นกัน     สัตว์แปลกสายพันธุ์ใหม่ ๆ ได้ถูกค้นพบให้เราได้ตื่นตาตื่นใจกัน  มากมาย โดยนิตยสาร  National Geographic ได้จัดอันดับ 10  สุดยอดสัตว์แปลกไว้ดังต่อไปนี้  
 1. ปลิงทีเร็กซ์ (T. Rex Leech) ปลิงสายพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการขนานนามว่า
 ราชาแห่งทรราชย์ มันถูกค้นพบในป่าอะเมซอน ของเปรู เมื่อเดือนเมษายนปีที่
 แล้ว มีขนาดยาวถึงกว่า 3 นิ้ว และมีฟันขนาดใหญ่ ไว้สำหรับเจาะเปิดรูบนร่าง
 ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพื่อดูดเลือด
 2. ปลาหมึกสีม่วง เป็นปลาหมึกที่ยังไม่มีการตั้งชื่อ มันเป็น 1 ใน 11
สัตว์น้ำสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกค้นพบระหว่างการสำรวจใต้ทะเลลึก
บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของแคนาดา เมื่อเดือนมิถุนายน
ที่ผ่านมา โดยเรือดำน้ำ "โรพอส" ที่มีจุดหมายในการค้นหาสัตว์สายพันธุ์ใหม่ใต้ทะเลให้ได้ และมันก็ได้ถูกค้นพบพร้อม ๆ กับสัตว์แปลกใต้ทะเลอีก10 ชนิด ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักวิทยาศาสตร์มากมาย
3. ค้างคาวโยดา (Yoda Bat) เป็นค้างคาวผลไม้จมูกหลอด
ที่ถูกค้นพบโดยสองนักวิทยาศาสตร์ในปาปัวนิวกินี ก่อนมันจะถูกนำไป
วิจัยและประกาศเป็นที่รู้จักในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ค้างคาวโยดานี้ไม่มีอะไรต่างจากค้างคาวผลไม้ทั่ว ๆ ไปเท่าไรนัก นอกจากรูปร่างหน้าตาที่ดูตลกและแปลกประหลาดเท่านั้นเอง
4. ทากนินจา (Ninja Slug) เป็นทากสีเขียวเหลืองสดใสที่มีหางยาวกว่าบริเวณหัวมันถึง 3 เท่า ถูกค้นพบในเกาะบอร์เนียว เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้วและมันก็พบได้เฉพาะบริเวณภูเขาสูงของเกาะบอร์เนียว ประเทศมาเลเซียเท่านั้นและสิ่งที่ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในสัตว์แปลกก็คือ วิธีสืบพันธุ์ของมันที่จะยิงศรรัก ที่มาจากแคลเซียมคาบอเนตและฮอร์โมนยิงไปหาทากอีกตัวหนึ่งและนั่นจึงทำให้มันถูกเรียกว่า ทากนินจา
5. ลิงจมูกบี้ (Sneezing Snub-Nosed Monkey) เป็นลิงพันธุ์ใหม่ที่ถูกค้นพบในภูเขารัฐคะฉิ่น ประเทศพม่า เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยลิงพันธุ์นี้จะมีขนาดตัวเล็ก มีเคราสีขาว และจมูกยุบลงไป นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สายฝนทำให้มันจามได้ ดังนั้นเวลาฝนตกมันจึงกอดเข่าตัวเองไว้เสมอแต่น่าเศร้าที่พวกมันมักจะถูกล่าไปประกอบอาหาร และมีจำนวนน้อยมากแล้ว
6. ปลาดุกกินไม้ (Wood-Eating Catfish) ถูกค้นพบในแม่น้ำซานตาอานาในป่าอะเมซอน ประเทศเปรู มีหัวโตและปากคล้ายกับปลาซัคเกอร์ ต่างที่ฟันของมันจะไม่ได้ใช้ดูดเกาะสิ่งต่าง ๆ แต่จะใช้ขุดแทะต้นไม้ที่โค่นลงไปในแม่น้ำ ซึ่งพวกมันก็สามารถย่อยไม้ได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าปลาชนิดนี้ต้องมีจุลินทรีย์ที่ช่วยพวกมันย่อยไม้แน่นอน
 
7. คางคกซิมป์สัน (The Simpsons Toad) เป็นคางคกจมูกงุ้มผิวขรุขระแต่บางและมีลำตัวยาวแหลมคล้ายกับมิสเตอร์เบิร์นส์ ในการ์ตูนซิมป์สัน ส่วนสิ่งที่ทำให้มันแปลกกว่าคางคกพันธุ์อื่น คือ มันไม่ได้เริ่มการเจริญเติบโตด้วยการเป็นลูกอ๊อดแต่จะฟักออกมาจากไข่แล้วเป็นตัวเลย ถูกค้นพบในประเทศโคลอมเบีย เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว
8. กิ้งก่าโคลนนิ่ง (Self-Cloning Lizard) เจ้ากิ้งก่าสายพันธุ์นี้เป็นเมนูสุดโอชะในเวียดนามมานาน แต่นักวิทยาศาสตร์เพิ่งจะค้นพบว่ามันไม่ได้มีชื่อ และไม่เคยถูกนำไปศึกษาแต่อย่างใด มันจึงได้กลายเป็นสัตว์สายพันธุ์ใหม่เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และส่วนที่ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในสัตว์แปลก ก็คือ ตัวเมียจะสามารถผสมพันธุ์ในตัวของมันเอง และมีลูกออกมามีลักษณะเหมือนมันทุกประการ และนั่นจึงทำให้มถูกเรียกว่า"กิ้งก่าโคลนนิ่ง"
 
9. หนอนปลาหมึก (Squid Worm) ไม่รู้เจ้าสัตว์แปลกตัวนี้เป็นหนอนว่ายน้ำได้ หรือเป็น
ปลาหมึกคล้ายหนอนกันแน่ มันถูกค้นพบเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ท่ามกลางความ
ตกตะลึงของนักวิทยาศาสตร์ เพราะมันมีรูปร่างหน้าตาที่แปลกประหลาดเหลือเกิน
 แต่สุดท้ายนักวิทยาศาสตร์ก็ได้พบว่า เจ้าสัตว์แปลกตัวนี้เป็นหนอนทะเลนั่นเอง
 มีขนาดลำตัวยาวประมาณ 10 เซนติเมตรเท่านั้น
10. ปลาตีนสีชมพู (Pink Handfish) เจ้าปลาตีนตัวนี้มันจะเดินอยู่บนพื้นก้นบึ้งของทะเล มีขนาดลำตัวประมาณ 10 เซนติเมตร มีลักษณะแปลกตาคือมีสีชมพูสวยต่างจากปลาตีนชนิดอื่น มันถูกค้นพบที่เกาะทาสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ดอกบุรุษเปลือย


ทำงานเสร็จก็เข้าเว็บดูภาพดอกไม้สวย ๆ ก็ไปเจอะ ดอกไม้แปลก ๆ อิอิ.! ดูเอาเองนะจ๊ะว่าแปลกยังไง  เจ้าของเรื่องและภาพ เขาพาดหัว ว่า " ดอกบุรุษเปลือย...ดอกไม้ที่มีอยู่จริง" คุณมะเดื่อเห็นว่าเป็นดอกไม้ที่แปลก+ประหลาด น่าสนใจ...

    จึงขอนุญาต ท่านเจ้าของเรื่องในการนำมาเผยแพร่และบอกต่อ ๆ กัน เป็นวิทยาทาน ในบันทึกนี้นะจ๊ะ ขอบพระคุณท่านเจ้าของเรื่องเป็นอย่างสูงจ้ะ

เข้าไปดูภาพเต็ม ๆ กันตรงนี้นะจ๊ะ

http://sbayjai.com/forum/index.php?topic=2563.0




15 อันดับชายหาดสุดแปลกในโลก อย่าเพิ่งตายหากยังไม่ได้ไป

15 อันดับชายหาดสุดแปลกในโลก อย่าเพิ่งตายหากยังไม่ได้ไป
หน้าร้อนต้องไปนอนทะเล...หาดสวย ทะเลใส ในโลกนี้มีเยอะ แต่ที่แปลกๆก็มีไม่น้อย อย่างเช่น 15 ชายหาดสุดแปลก เหล่านี้ ถ้าหากยังไม่ได้ไปเยือนสักที่ล่ะก็ อย่าเพิ่งตายนะ!!



1.ชายหาดสุดระทึก Maho Beach - Saint Martin
ชาย หาดมาโฮ หาดสุดเสียวบนเกาะเซ้นท์มาร์ติน ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เหตุเพราะชายหาดมีอาณาเขตติดกับสนามบิน St Maarten ดังนั้นระหว่างเริงร่าอยู่ริมหาดจะมีเครื่องบินโฉบเฉี่ยวอยู่เหนือศีรษะคุณ ให้ระทึกเป็นระยะๆ



2 .ชายหาดเปลือกหอย Shell Beach – Shark Bay, Australia
ชาย หาดเปลือกหอยอยู่ในอ่าวชาร์ก (Shark Bay) ประเทศออสเตรเลีย ชื่อ Shell Beach มาจากการที่มีเปลือกหอยเล็กๆปกคลุมอยู่เต็มหาด ด้วยเพราะน้ำทะเลมีความเค็มสูง ประกอบกับสภาพภูมิอากาศและพื้นที่เหมาะที่ประชากรหอยจะขึ้นมาอาศัยอยู่



3 .ชายหาดแก้ว Glass beach – California, America
ชาย หาดแก้วแห่งนี้ เดิมที่เป็นที่ทิ้งขยะของรัฐแคลิฟอร์เนีย หลายสิบปีผ่านไป ขยะที่เป็นเศษแก้วถูกคลื่นซัดสาดหายไป จนกลายเป็นชายหาดแสนสวยอย่าวน่าอัศจรรย์



4 .ชายหาดสีชมพู Pink Sand Beach – Bahamas
หาด ทรายสีชมพูนี้อยู่ในประเทศบาฮามาส สีชมพูนวลดั่งผลท้อนี้แท้จริงคือเปลือกหอยสีชมพูที่แตกละเอียด เมื่อต้องแสงแดดตอนเที่ยงก็ระยิบระยับ ยามพระอาทิตย์ตกดินลับขอบฟ้าก็ยิ่งขับสีชมพูบนผืนหาดให้ชัดเจน



5 .หาดทรายสีดำ Punaluu Black Sand Beach – Hawai
หาดสีดำที่เกิดจากลาวาที่ไหลทะลักลงสู่ทะเลและเย็นตัวลง อีกทั้งที่นี่ยังมีชื่อเสียงว่าเป็นชายหาดของเต่าทะเลด้วย



6. ชายหาดหาดทรายสีเขียว (Green sand beach) – Hawai
หาดทรายสีเขียวบนเกาะฮาวาย สีเขียวที่เห็นนั้นเป็นผลึกของหินโอลีวีน (Olivine) หรือแร่ของหินเพริโดไทต์ที่ผสมอยู่ในผืนทราย



7 .ชายหาดขาวที่สุดในโลก Hyams Beach – Australia
ชายหาดทางตะวันออกของออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการบรรทึกลงใน Guinness Book ว่าเป็นชายหาดที่ขาวที่สุดในโลก ด้วยเม็ดทรายละเอียดเนียนดั่งผงแป้ง เดินเล่นสุดนุ่มเท้า



8. ชายหาดซากโบราณ Tulum Beach – Mexico
ชายหาดตูลัมบนคาบสมุทรยูคาตาน (Yucatan Peninsula) ประเทศแม็กซิโก กวักมือเรียกนักท่องเที่ยวได้ด้วยซากปรักหักพังของชาวมายาโบราณที่ทำให้หาดแห่งนี้น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก



9. ชายหาดที่ยาวที่สุดในโลก Coxbazar beach – Bangladesh
ชายหาดที่ได้รับการขนานนามว่ายาวที่สุดในโลกด้วยความยาว 120 กิโลเมตร ส่วนลำดับที่ 2 คือหาดคุจูคุริฮามะ ของประเทศญี่ปุ่นที่มีความยาว 60 กิโลเมตร



10 .ชายหาดแพนกวินว่ายน้ำ Boulders beach - South Africa
ชายหาดแห่งนี้เป็นบ้านของแพนกวินแอฟริกา เราจะได้เห็นแพนกวินเดินสวนเล่นอยู่หาด บ้างก็ลงไปว่ายเริงร่าโต้คลื่น ดูเพลิดเพลินทีเดียว



11 .ชายหาดแมวน้ำ Childrens pool beach – America
หาดทรายขาวธรรมชาติในซานติอาโก้ ที่เจ้าแมวน้ำอ๋งอ๋งจองเต็มพื้นที่แล้ว คนไม่มีสิทธิ์เข้ามานะจ๊ะ



12. ชายหาดรถวิ่งได้ Chirihama-Nagisa drive way – Japan
ปกติชายหาดมีไว้สำหรับให้คนได้ทำกิจกรรมความเพลิดเพลินต่างๆในยามมาเที่ยวทะเล โดยไม่มีรถหรือยานพาหนะใดๆเข้ามาได้ แต่สำหรับที่จิริฮามะ เราสามารถขับรถยนต์, ขี่มอเตอร์ไซด์ เข้าไปชมวิวสวยๆได้ บางทีอาจมีรถบัสคันใหญ่ผ่านเข้ามาด้วย



13 .ชายหาดออนเซ็น Hot water beach – Newzealand
ชายหาดบนเกาะทางเหนือของนิวซีแลนด์ ยิ่งในช่วงเวลาน้ำลง ผู้คนจะมารวมตัวกันมากมาย และขุดหลุมหาดทรายให้เป็นสปาส่วนตัว



14 .หาดโขดหิน Moeraki Boulders Beach – Newzealand
ชายหาดที่เต็มไปด้วยโขดหินกลมๆ ที่บางก้อนใหญ่และหนักถึง 3 ตันเลยทีเดียว



15 .ชายหาดและทะเลที่เล็กที่สุดในโลก Playa de Gulpiyuri beach – Spain
วิวที่เห็นอยู่นี้อยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่มีระยะทางห่างจากชายฝั่ง 100 เมตร นี่ไม่ใช่ทะเลสาบ หากแต่เป็นน้ำเค็ม เป็นทะเลจริงๆ ถ้ำแคบๆที่เชื่อมต่อจากทะเลสามารถดูดน้ำทะเลเข้าไปได้

เปิดพิสดาร อาหารแปลก 10 สุดยอดเมนู อาหารพื้นเมือง จากทั่วโลก

1. ซุปรังนก - ประเทศจีน

สำหรับคนเอเชียอย่างเรา การทานรังนกคงเป็นเรื่องธรรมดา แต่พวกฝรั่งตาน้ำข้าว หรือคนต่างชาติ เค้าดันรู้สึกว่ามันแปลก และถือว่ารังนักเป็นอาหารที่แปลกประหลาดสุดๆ กับการกินน้ำลายของนกเข้าไปได้ยังไง

ซึ่งรังนกแท้ๆที่ได้มาจากน้ำลายของนกนางแอ่น ที่สำรอกออกมาแล้วจับตัวแข็งเป็นรูปร่างคล้ายรังนกนั่นเอง และรังนกยังเป็นอาหารชั้นเลิศของหลายประเทศในแถบเอเชีย แถมมีราคาแพงอีกมากๆ อาหารเมนูพิสดารนี้เลยอดทำให้พวกฝรั่งเค้าแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมคนเอเชียถึง ชอบกินนำลายของนกจัง



2. ตัวบึ้งทอด - ประเทศกัมพูชา 
นั่น! โดนจนได้ "ตัวบึ้ง" หรือแมงมุมยักษ์ (Fried tarantulas) ที่เคยเป็นข่าวในบ้านเราว่าต่อยคนตาย แต่ที่เขมร "ตัวบึ้ง" ถูกจับตายให้กลายเป็นอาหาร [แบบว่า..อวัยวะทุกส่วนอยู่ครบ ไม่เว้นเขี้ยว ขา และขน] ที่มีให้เลือกทั้งแบบย่าง อบ ทอด เมนูยอดนิยมของคนเขมร (กัมพูชา) เค้า เต็มทั่วท้องถนนในเมืองสะกุน จ.จำปงจาม ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิมกัน


3. ปลาปักเป้า - ประเทศญี่ปุ่น 
"ฟุกุ" หรือเป็นที่รู้กันว่า "ปลาปักเป้า" (Puffer fish) เป็นปลาอีกชนิดหนึ่งที่มีพิษร้ายแรง สารพิษที่ว่านี้คือ เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ซึ่งมีอันตรายร้ายแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,250 เท่าอยู่ในตัว โดยเฉพาะบริเวณหนัง ไข่ เนื้อ ตับ และลำไส้ หากได้รับพิษจากการทานปลาชนิดนี้เพียงเล็กน้อยก็ถึงแก่ความตายได้

แต่เมนูจากปลาชนิดนี้เป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ ประเทศญี่ปุ่นจึงออกกฏหมายให้ เฉพาะพ่อครัวที่มีใบอนุญาตเท่านั้น ที่สามารถชำแหละเนื้อปลาปักเป้าเพื่อนำมาทำเป็นอาหารได้



4. ไข่บาลุต - ประเทศฟิลิปปินส์

ไข่บาลุต (Balut) คือ ไข่ต้มที่มีตัวอ่อนของเป็ด หรือไก่ ตายอยู่ภายใน สามารถหาทานได้ทั่วไปตามข้างทาง เมนูแบบนี้บ้านเราเองก็มีขายนะ แต่เป็นแบบปิ้ง เห็นเค้าเรียกกันว่า "ไข่ข้าว" เคยเห็นเค้านำไข่เสียบไม้ปิ้ง แล้วเดินหาบขายกันตามท้องถนน


5. คาสุ มาร์ซู - เกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี

คาสุ มาร์ซู (Casu Marzu) หมายถึง "ชีสเน่า" หรือที่ชาวซาร์ดิเนียนเรียกว่า "ชีสหนอน" นั่นเอง คือ ชีสนมแกะที่ภายในมีรูพรุน อันอุดมไปด้วย "หนอนแมลงวัน" ปัจจุบันชีสชนิดนี้ ทางอียูจะกำหนดให้เป็นอาหารที่ผิดกฏหมาย และผิดหลักโภชนาการอย่างแรง แต่ก็ยังคงมีขาย และหาซื้อรับประทานได้จากตลาดมืด

"คาสุ มาร์ซู" ภายในชีสจะมีหนอนตัวขาวใส ความยาวประมาณ 8 ม.ม. ดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก แถมยังกระโดดได้อีกด้วย หากใครเอามือไปโดน หรือเอาอะไรเขี่ยหนอนที่อยู่ในชีส พวกมันจะกระโดดใส่ทันที (ดีดตัวได้สูงถึง 15 ซ.ม. เชียว) ซึ่งหนอนเหล่านี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเร่งกระบวนการหมักให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และทำให้ไขมันแตกตัว

ว่ากันว่าชีสชนิดนี้มีความอ่อนนุ่มมาก เนื่องจากมีของเหลวแทรกซึมอยู่ในเนื้อชีส แต่จะต้องรีบทานในขณะที่หนอนยังมีชีวิตอยู่ [ยี้...!] เพราะถ้ารอให้หนอนตายก่อน ชีสก้อนนั้นจะถือว่าเป็นอาหารมีพิษทันที



6. เซอร์สตอร์มมิง - สวีเดน 
อีกหนึ่งใน 10 ของอาหารแปลก ต้องยกให้จานนี้ แถมยังมีวางขายทั่วไปในซูเปอร์มาร์เก็ตของสวีเดน นั่นคือเจ้า “เซอร์สตอร์มมิง” หรือ “ปลาเฮอร์ริงเน่า” [อี๋เหม็น] ขนาดปลาร้าบ้านเราที่ว่าแน่ๆ กลิ่นแรงๆ เจอเจ้านี่ทีชิดช้ายไปเลย ก็แน่ละดันเป็น "ปลาเน่า" มักนานเกือบปี

“เซอร์สตอร์มมิง” ผลิตจากปลา เฮอร์ริง ในทะเลบอลติก ปลาเหล่านี้จะถูกหมักอยู่ในถังราว 1-2 เดือน ก่อนนำมาบรรจุลงกระป๋องเพื่อหมักต่อ และรอให้ปลาเน่าสนิทอีกราว 6 เดือน จนกระป๋องเริ่มบวมเป่งเพราะภายในมีแก๊ส (ปลาเน่าได้ที่แล้ว) เป็นอันใช้ได้ จากนั้นจึงเริ่มนำออกขายตามท้องตลาด และมักจะเกิดการระเบิดอยู่บ่อยครั้งจากแรงดันของแก๊สในกระป๋อง ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ “เซอร์สตอร์มมิง” กลายเป็นวัตถุอันตราย และห้ามไม่ให้นำขึ้นเครื่องโดยเด็ดขาด

คนสวีเดนมักรับประทานปลาเน่าชนิดนี้กับขนมปังแผ่นใหญ่บางๆ หรือกับมันฝรั่งต้ม ขณะที่บางคนนิยมทานร่วมกับนม เบียร์ หรือน้ำเปล่า เพื่อให้ทานง่ายขึ้น



7. ปลาหมึกเป็นๆ - เกาหลีใต้

เมนูนี้มีชื่อว่า "Sannakji" กับการเสิร์ฟปลาหมึกสดเป็นๆที่หั่นเป็นชิ้นๆ ที่ราดด้วยน้ำมันงา ดูแล้วก็น่าลิ้มลองดี แถมยังต้องใช้ความพยายามในการกินอีกด้วย กับการต่อสู่กับหนวดปลาหมึกที่ยังคงดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่

ฉะนั้นหากใครอยากลองเมนูนี้จึงต้องใช้ความไวของฟัน และอดทนสูง ในการต่อสู่ฟาดฟันกับปลาหมึก ซึ่งอาจจะดูดติดฟัน เพดานปาก และลิ้นของเรา แถมยังดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาเวลาเวลาเคี้ยว จึงต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนลงคอ เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย



8. กาแฟ Kopi Luwak - อินโดนีเซีย

หากไปได้ใครประเทศอินโดนีเซีย คงต้องไปลิ้มลองขอชิมกาแฟชนิดนี้ เพราะกาแฟ "Kopi Luwak" นั้นเรียกได้ว่าเป็นกาแฟที่หายากและมีราคา "แพงที่สุดในโลก" มาแล้วครั้งหนึ่ง

สำหรับเมล็ดกาแฟที่ว่านี้ ได้มาจากมูล (อึ) ของตัวชะมด ซึ่งชาวอินโดฯ เรียกว่า Luwak สัตว์ชนิดนี้จะกินผลกาแฟสดเข้าไป แล้วขับถ่ายเมล็ดกาแฟออกมา กล่าวกันว่าเมล็ดกาแฟที่ผ่านกระบวนการนี้จะมีกลิ่นหอม และรสชาติดีเป็นพิเศษ 



9. หัวใจสดๆ ของนกพัฟฟิน - ไอซ์แลนด์

เมนูนี้ช่างโหดร้ายมาก กับการเปิบพิสดารนกพัฟฟิน (Puffin) ที่ถือได้ว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ แต่สำหรับคนไอซ์แลนด์การจับนกพัฟฟินหักคอ ถลกหนัง ควักหัวใจสดๆมาจกทานกัน ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนเนื้อจะถูกนำไปรมควัน ย่าง ทอด หรือกลายเป็นเมนูอันโอชะตามภัตตาคารหรูต่างๆ

ปัจจุบันนี้ประชากรนกพัฟฟินกำลังลดลงอย่างมาก ด้วยการไล่ล่าของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับด้วยวิธี "สกาย ฟิชชิ่ง" หรือใช้ตาข่ายขนาดใหญ่ดักจับนก ยิ่งทำให้ลดลงอย่างรวดเร็ว



10. เหล้าดองงู - เวียดนาม

เหล้าดองงู ยาโด้ป! ชั้นเลิศของคนเวียดนาม กับการจับงูดองแช่ลงในขวดเหล่า แม้ว่างูนั่นจะมีพิษก็ตาม แต่คนท้องถื่นเค้าว่า... หากงูถูกแช่เหล่าเป็นเวลานานๆ เหล่าจะทำให้พิษค่อยๆเจือจาง และถูกทำลายไปในที่สุด จึงสามารถดื่มได้โดยไม่เป็นอันตราย

ดอกไม้แปลกหายาก

ดอกไม้แปลกหายาก จากผลงานการสร้างสรรค์วีดิโอสารคดีชุด "ไม้แปลกและหายาก" ของคณะสารสนเทศและการสื่อสารมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งรวบรวมพันธุ์ไม้ที่หาพบได้ยากในพื้นที่ทั่วไปและมีความงดงาม มีคุณค่าต่อการอนุรักษ์ เรียนรู้ และรักษาไว้
คำมอกน้อย
คำมอกน้อย

แก้วมุกดา

แก้วมหาวัน
กลาย
กลาย
น้ำผึ้งหรือรวงผึ้งน้ำผึ้ง
กุหลาบขาวเชียงดาว
กระโถนพระฤาษี

10ดอกไม้แปลก

10 สุดยอดดอกไม้แปลกๆ ที่สุดของโลก ซ้ำขออภัย


1. Rafflesia arnoldii หรือดอกบัวผุด
เป็นกาฝากชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่บนรากของพืชจำพวกเถาองุ่นป่า (Tetrastigma) ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า ย่านไก่ต้ม มีลักษณะเด่นที่ดอกซึ่งเป็นดอกเดียวขึ้นจากพื้นดินมีขนาดใหญ่ มีกลิ่นเหม็นมาก 
ดอก ตูมอยู่จะคล้ายกับหม้อขนาดใหญ่มีกลีบหนา ที่โคนของดอกมีกลีบนำสีน้ำตาลอมเหลืองเรียงสลับซับซ้อนกันอยู่มาก ด้านบนมีปุ่มคล้ายหนามแหลมจานนี้จะซ้อนเกสรตัวผู้และรังไข่ไว้ด้านล่าง ดอกจะบานอยู่ได้เพียง 4-5 วันเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะค่อยๆ ดำเน่าไป ดอกบัวผุดพบใน อำเภอพนม บนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก ในจังหวัดสุราษฎ์ธานี ซึงเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี
2. Titan Arum ดอกซากศพ หรือดอกบุกยักษ์
ดอกไม้ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง มันสามารถแปลงกายให้เหมือนลึงค์แต่ไม่ใช่ลึงค์ เป็นพืชในเขตป่าร้อนชื้น ในพืชตระกูล "บัวผุด" (Rafflesia) เป็นดอกไม้เดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาณาจักรพืช พบขึ้นอยู่บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย กลิ่นน่าสะอิดสะเอียนที่หึ่งไปทั่วของมัน กลับเย้ายวนแมลงบางชนิดให้มาดูดน้ำหวาน และผสมเกสรให้มัน 

3. Hydnora africana
พืชพื้นเมืองไปภาคใต้ แอฟริกา พืชเจริญเติบโตใต้ดินยกเว้นดอกไม้อ้วนที่ปรากฏบนพื้นและส่งเสียงของกลิ่น อุจจาระ เพื่อดึงดูดธรรมชาติ ผสมเกสร , ด้วงมูลสัตว์ และ ซากสัตว์ด้วง ดอกไม้ทำหน้าที่เป็นกับดักสำหรับระยะเวลาสั้น ๆ ยึดด้วงที่ใส่แล้วปล่อยพวกเขาเมื่อดอกไม้บานเต็มที่
4. Helicodiceros muscivorus - Dead horse arum lily
เป็นไม้ประดับ พื้นเมืองในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน มีกลิ่นเหมือนเนื้อเน่าเหม็นหึ่ง, ดึงดูดแมลง ให้มาผสมเกสร

5. ดาร์ลิงโทเนีย (Darlingtonia), Cobra Lilly, ลิลลี่งูเห่า

ลิลลี่งูเห่า เป็นพืชกินแมลงกลุ่มเดียวกับซาราซีเนียและ Heliamphora มีชื่อเสียงในแง่ของความแปลกประหลาด น่าพิศวงและสวยงามเป็นอย่างยิ่ง แต่ขณะเดียวกันก็มีชื่อด้านตรงข้ามในแง่ของความบอบบางจนกล่าวกันว่า ลิลลี่งูเห่าเป็นพืชกินแมลงที่เลี้ยงยากที่สุดในโลก แม้แต่ในถิ่นที่ลิลลี่งูเห่ากำเนิดเป็นดงใหญ่ ชาวบ้านในละแวกนั้น ขุดมาใส่กระถางก็ยังตาย ดาร์ลิงโทเนีย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Darlingtonia californica ค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1841 โดยผู้ช่วยนักพฤกษศาสตร์นาม J.D. Brackenridge ในหนองน้ำแฉะทางตอนเหนือของรัฐ californica ซึ่งมีภูมิอากาศคล้ายคลึงกับประเทศไทย
6. Heliamphora
เป็นพืชที่มีเหมือกเหนียวสำหรับดักแมลง กลไกของดอกจะมีซอกซับซ้อนที่ทำให้แน่ใจว่าไม่สามารถมีเหยื่อเล็ดรอดไปได้ และเหยื่อจะถูกละลายด้วยน้ำเมือกที่เป็นกรด
7. Drosera หรือ หยาดน้ำค้าง
หยาดน้ำค้างเป็นพืชกินสัตว์สกุลใหญ่สกุลหนึ่ง มีอยู่ประมาณ 170 ชนิด เป็นสมาชิกในวงศ์หญ้าน้ำค้าง ล่อ, จับ และย่อยแมลงด้วยต่อมเมือกของมันที่ปกคลุมอยู่ที่ผิวใบ แมลงจะใช้เป็นสารเสริมทดแทนสารอาหารที่ขาดไปจากดินที่ต้นหยาดน้ำค้างขึ้น อยู่ มีหลากหลายชนิด ต่างกันทั้งขนาดและรูปแบบ สามารถพบได้แทบจะในทุกทวีป
ในประเทศไทยพบหยาดน้ำค้างอยู่ 3 ชนิดคือ จอกบ่วาย (Drosera burmannii Vahl), หญ้าน้ำค้าง (Drosera indica L.) และ หญ้าไฟตะกาด
8. Dionaea/Venus Flytrap หรือ กาบหอยแครง
กาบหอยแครง (อังกฤษ: Venus Flytrap) เป็นพืชกินสัตว์ที่ดักจับและย่อยกินเหยื่อที่จับได้ ซึ่งส่วนมากเป็นแมลงและแมง กาบหอยแครงมีโครงสร้างกับดักคล้ายคล้ายบานพับแบ่งออกเป็น 2 กลีบ อยู่ที่ปลายใบของแต่ละใบ และมีขนกระตุ้นบางๆบนพื้นผิวด้านในกับดัก เมื่อแมลงมาสัมผัสขนกระตุ้นสองครั้ง กับดักจะงับเข้าหากัน การที่ต้องการสิ่งกระตุ้นที่ซับซ้อนนี้ก็เพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงานไป กับการดักจับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่อาหาร
9. Nepenthes หรือ หม้อข้าวหม้อแกงลิง
หม้อ (Pitcher) ของต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง คือเครื่องมือของนายพราน - กับดักสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก - ที่พืชสกุลนี้ส่วนใหญ่ (แต่ไม่ทุกต้น) มีไว้เพื่อหาอาหารที่ขาดแคลนในแหล่งดิน มันหลอกล่อเหยื่อให้เดินเข้ากับดักโดยอาศัยกลิ่นเลียนแบบกลิ่นอาหารตาม ธรรมชาติของเหยื่อ อาจเป็นกลิ่นน้ำหวาน กลิ่นเนื้อสัตว์ กลิ่นแมลงเพศเมีย ฯลฯ หรือยั่วยวนเหยื่อด้วยสีสัน หรือน้ำหวาน หม้อข้าวหม้อแกงลิง บางสายพันธุ์สามารถสะท้อนแสงยูวี (Ultraviolet)จากบริเวณปากหม้อ โดยเฉพาะหม้อแถบบอร์เนียว หลักการคล้ายกับการล่อแมลงโดยใช้แสงจากหลอดที่ชาวบ้านเรียกแบล็คไลท์ใช้ล่อ แมงดานา หม้อข้าวหม้อแกงแกงลิงก็มีแบล็คไลท์เพื่อล่อแมลงกลางคืน ด้านในและใต้ส่วนที่งุ้มโค้งของปากหม้อ (peristome) ส่วนใหญ่เป็นแหล่งผลิตน้ำหวานปริมาณ
N. mirabilis ชอบกินมดมาก เมื่อมดแมลงพยายามชะโงกตัวดูดกินน้ำหวานใต้ปากหม้อที่ลื่นและผิวเป็นคลื่น ตามแนวที่เหยื่อชะโงกอยู่ยืน นอกขจากนี้ ผิวที่ปากหม้อยังมีไขมันเคลือบเป็นมัน เหยื่อจึงมีโอกาสพลัดตกลงไปในหม้ออย่างง่ายดาย
หม้อ แต่ละชนิด จะดึงดูดเหยื่อไม่เหมือนกัน เช่นหม้อข้าวหม้อแกงลิงของไทยที่ชื่อ Nepenthes mirabilis เก่งในการล่อมดดำให้ตกลงไปในหม้อคราวละมากๆ บางครั้งเคยเห็นหม้อที่มีมดเกือบเต็ม ในขณะที่หม้ออัลบอ (N. albomarginata ) เก่งในทางหลอกล่อปลวก
10.Byblis
เป็นพืชที่เล็กที่สุดในตะกูลต้นไม้กินแมลง ใบผิวของขนหนาแน่นด้วยต่อมขับ เมือก สารจากปลายของเกสร ดึงดูดแมลงเล็กๆให้มาติดกับ ซึ่งเมื่อสัมผัสหลั่งเหนียว ก็จะไม่มีความแข็งแรงพอที่จะหลบหนี แมลงหรือเหยื่อก็จะเสียชีวิตด้วยความอ่อนเพลียทำให้หายใจไม่ออก เมื่อเมือกปกคลุมและอุดตันเส้นทางหายใจ